Saturday, October 30, 2010

9 นิสัยที่ทำให้อ้วน

1. กินข้าวเร็ว
จอมเขมือบตัวจริง กินเร็วมาก แทบจะไม่เสียเวลาเคี้ยว กินแล้วกลืน คนอื่นยังกินอยู่ เราก็เรียบร้อยแล้วจานแรก ทำไงละคราวนี้ ก็ไปเบิ้ลจานสองสิ เขาว่ากินข้าวเร็ว กระเพาะยังไม่ทันรับรู้ถึงความรู้สึกอิ่มเลย ดังนั้นค่อยๆ กิน ไม่ได้จะรีบไปไหน จะให้ดี ก็ทานน้ำเยอะหน่อย จะได้อิ่มไวๆ
2. ดูโทรทัศน์ไป กินไป
เป็นสาเหตุใหญ่อีก เวลาดูกีฬา ถ้าจะให้สนุกต้องน้ำอัดลมกับขนมกรุบกรอบถึงจะเชียร์กีฬาสนุก แล้วเจ้า 2 ตัวนี้ ต่างก็แคลอรีสูงทั้งคู่เลย ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 500 แคลอรี นี้เฉพาะอาหารว่างนะ แล้วที่กินเป็นอาหารหลักละ ไปแล้วเท่าไรไม่อ้วนให้มันรู้ไป ของพวกนี้ เรียกว่า กินแล้วไม่ค่อยคำนึง เพราะกินไปเรื่อยๆมาเรียงๆ หมด ก็ไปเอามากินอีก ลองเปลี่ยนใหม่ได้ไหมว่า เชียร์กีฬาไป กินผลไม้ไป เป็นการเชียร์กีฬาเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง อ้อ ส่วนเครื่องดื่ม น้ำเปล่าดีสุด
3. เสียดายของ
ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กว่า กินข้าวจะต้องกินให้หมดจาน อย่าเหลือทิ้งไว้ สงสารชาวนาที่ปลูกข้าว เต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวมาเม็ดหนึ่ง พอเรากิน แม้จะอิ่มแล้วแต่ก็ต้องกินให้หมด เฮ้อ บางทีนะ ลดความสงสารชาวนาลงหน่อย สงสารตัวเรามากขึ้น และทางที่ดี ตักข้าวแต่พอดี หรือไม่ก็บอกที่ร้านว่าข้าวไม่ต้องเยอะ แล้วก็ไม่ต้องใจดีไปช่วยคนอื่นรับผิดชอบส่วนที่กินเหลือหรอกนะ

4. เครียดแล้วกิน

อันนี้เป็นโรคจิตแบบหนึ่งเลยนะ ประเภทประมาณว่าประชด เครียด ก็เอาอาหารเป็นที่ระบาย กินเอากินเอา อย่างอกหัก แทนที่จะกินข้าวไม่ลง ไม่เลย บอกตัวเองว่า กินเข้าไป กินเข้าไป กินมันให้ท้องแตกตายไปเลย สุดท้ายไม่ตาย แต่มานั่งกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มพูนขึ้น

5. ให้รางวัลโดยการกิน

เป็นนิสัยหนึ่งที่ชอบนัก เวลาเราดีใจ หรือทำอะไรประสบความสำเร็จ ต้องมีการนัดฉลองกันหน่อย กินฉลองสอบได้ กินฉลองได้ลูกค้าใหม่ กินฉลองมีแฟนสวย กินฉลองวันเกิด กินฉลองวันเข้าพรรษา กินฉลองมันได้ทุกวัน ลองเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลเป็นแบบของขวัญ หรือไปเที่ยว หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมาโยงกับการกิน ดีไหม

6. กินอาหารคาว ต้องตามด้วยของหวาน

ไม่รู้ทำไมต้องเป็นสูตรแบบนี้ เหมือนตอนอยู่โรงเรียน จำได้ว่า พอกินข้าวเที่ยงเสร็จ จะต้องตามด้วยของหวาน พวกกล้วยบวดชี บวดฟักทอง ถั่วดำ และอีกสารพัด กินแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง ลองเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ดีกว่า แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม และอีกเยอะแยะ

7. กินบุปเฟ่ต์ต้องเอาให้คุ้ม

กินเท่าไรก็ได้ อย่างนี้ต้องกินให้เยอะๆ เอาให้คุ้ม ตักพูนจาน กินจนหมด อิ่มแล้ว แต่ยังไม่คุ้ม ไปตักเอามากินอีก นี้ถ้าไม่เกรงใจ จะเอาใส่ถุงพลาสติกกลับบ้านอีกนะนี้นะ กินเข้าไป กินเข้าไป พอหันกลับมา เอ๊ะทำไมจานเนื้อจะท่วมมิดเราแล้วนะนี้ พอๆ เลิกนิสัยแบบนี้เถอะ ไม่ต้องเอาให้คุ้มนักหรอก สงสารร้านเขาบ้าง ไม่ใช่กินให้คุ้มแล้วแบบนี้ เป็นการกินให้ร้านเขาเจ๊งมากกว่า

8. ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

คือ หลายครั้งที่เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก พอมันไม่ค่อยลด ก็ท้อใจ หันกลับไปกินมากเหมือนเดิม แถมยังยอมรับอย่างน่าสลดว่า ความอ้วนยังไงก็ต้องอยู่ติดตัวคู่กับเราไปทั้งชีวิตแน่ๆ อย่าไปเชื่อยังงั้นสิ สู้ๆ เข้าไป สู้เข้าไป มันลดได้สิ ยอมแพ้วันนี้ก็ต้องแพ้มันไปตลอดกาล แต่หากสู้ เราก็ยังมีหวังเอาชนะได้

9. ออกกำลังกายแล้วกินเยอะขึ้น

เป็นกันหลายคนจริงไหม คิดแต่ว่า เวลาออกกำลังกาย เราก็ใช้พลังงานไปเยอะแล้วนะ ให้รางวัลหน่อย กินเยอะขึ้นกว่าเดิม อ้วน ที่ออกไปคืนมาหมด เรียกว่าเป็นพวกออกสลึง กินบาท น่าเสียดายจริงๆ หลายคนคิดว่า เอ๊ะ การออกกำลังกายทำให้กินเยอะขึ้นหรือเปล่า ตอบเลยว่า ไม่จริง ที่กินเยอะ เป็นเรื่องของจิตใจเรามากกว่า ยกตัวอย่าง หากออกกำลังกายโดยการวิ่ง 1 ชั่วโมง อย่างมากก็ประมาณ 600 แคลอรี จำนวนเท่านี้ หากกินขนมกรุบกรอบกับน้ำอัดลม มันก็เกิน 600 แคลอรีแล้วละ


No comments:

Post a Comment