Saturday, December 8, 2012

ทำไมขวดไวน์ต้องวางแนวนอน?



ทำไมขวดไวน์ที่วางขายอยู่ในร้านจึงต้องวางขวดในแนวนอน  เพราะว่าน้ำไวน์จะหล่อเลี้ยงจุกก๊อกที่ปากขวดให้เปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกไหลซึมเข้าไปในขวด เพราะถ้ามีอากาศซึม เข้าไปในขวดจะทำให้ไวน์เสียได้  ร้านไวน์จึงใช้วิธีนี้เพื่อยืดอายุไวน์

ไวน์ขาวจะมีความสมบูรณ์ในช่วง 5-6 ปี นับจากวันที่ผลิต โดยแรกเริ่มจะมีสีเหลืองตองอ่อน เมื่อเพิ่มอายุขึ้นจะมีสีเหลืองเข้ม เมื่อใกล้หมดอายุจะมีสีน้ำตาลเข้ม

ไวน์แดงจะมีอายุยืนยาวกว่าไวน์ขาว แรกเริ่มจะมีสีแดงอมม่วง จากนั้นจะเป็นสีแดงสด ซึ่งเป็นช่วงที่พร้อมดื่มและจะกลายเป็นสีแดงอมน้ำตาลและซีดลงเรื่อยๆจนออกสีส้มเมื่อหมดสภาพ

การดื่มไวน์ควรดื่มที่ความเย็นราว 8-12 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยลดความเป็นกรดของไวน์และให้ความสดชื่นที่สุด

Wednesday, October 17, 2012

โสมพืชมหัศจรรย์



 โสมมีสรรพคุณในการป้องกันและบำบัดรักษาโรคต่างๆ โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ดังนั้นโสมจึงได้รับความนิยมและความเชื่อถือมาเป็นนาน การนำโสมมาเพิ่มเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ เช่น กาแฟโสม ที่มีสรรพคุณด้านลดน้ำหนัก และในเรื่องความสวยความงาม โสมได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดีและเป็นที่รู้จักกันดี ในกลุ่มคนเกาหลี จีน และญี่ปุ่น จนมีคำกล่าวว่า โสมเป็นยาอมตะหรือยาที่มหัศจรรย์ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน

       โสม เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป แต่โสมที่ได้รับความนิมมากที่สุด และดีที่สุดคือ โสมที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเกาหลี และจีน สารสำคัญที่ตรวจพบในรากโสมที่มีฤทธิ์ในทางรักษาโรคคือ Ginsenosides ที่มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของร่างกาย (หยิน-หยาง) ได้เป็นอย่างดี โสมจะดีมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปริมาณ Ginsenosides ที่มีอยู่ในรากโสมนั่นเอง


       โสม ยังมีประโยชน์ในการช่วยให้เนื้อเยื่อดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้น จึงทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเกิดได้มากขึ้น ในโสมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการทำลายเซลล์ให้แก่ก่อนวัยและยังมีประสิทธิภาพในการเป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้อีกด้วย


       นอกจากนี้โสมยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยและลดความเครียดได้ หากเป็นคนทำงานหนัก หรือเครียดกับเรื่องต่างๆ รอบตัว ให้กินโสม โสมจะช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงและคลาย เครียด และโสมยังเป็นยาบำรุงให้เกิดผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย


       การกินโสมให้ได้ผลดีต้องรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องโดยหลังจากกินโสมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงไม่ควรกินอาหารอย่างอื่นตามและอย่าใช้โสมร่วมกับสารต่างๆ ที่มีภาวะเป็นกรดเช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว อาหารที่มีรสเปรี้ยว เพราะสรรพคุณของโสมจะถูกทำลายโดยความเป็นกรดได้

Saturday, September 15, 2012

ลิฟท์ประดิษฐ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อใด?

ลิฟต์ตัวแรกสร้างขึ้นโดยบริษัทแห่งหนึ่งทางตะวันตกของ เยอรมันเมื่อ ค.ศ.1887 เป็นลิฟต์ที่ตั้งอยู่ในหอสูงกลางงานนิทรรศการทางอุตสาหกรรมสามารถยกขึ้นสูง ด้วยความเร็วนาทีละ 120 เมตร เพื่อใหผู้เข้าชมงานสามารถมองเห็นบริเวณงานทั้งหมดจากที่สูงได้

คิ้วทำหน้าที่อะไร?

เมื่ออากาศร้อน คิ้วจะช่วยป้องกันไม่ให้เหงื่อที่ไหลจากหน้าผากเข้าตา และยังช่วยป้องกันแสงแดด ถ้าแดดจ้ามาก เราจะย่นหน้าผาก ตอนนั้นคิ้วจะเหยียดเป็นเส้นตรง ทำให้บังแสงแดดแรงๆได้ โดยผิวหน้าบริเวณคิ้วเป็นส่วนที่นูนยื่นออกมาเหนือจา ทำหน้าที่รับแรงกระแทก

Friday, August 31, 2012

การฟื้นฟูสมอง เพิ่มความฉลาดทางปัญญา

แม้ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นในแต่ละปี  พลังสมองก็จะค่อยๆเสื่อมลงเป็นธรรมดาแต่จริงๆ  แล้วถ้าเราบริหารสมอง  มันก็เป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพของสมองให้คงฟิตเปรี๊ยะอยู่เสมอิ  ถ้ามีการกระตุ้นสมองเป็นประจำ  ในสมองของเรานั้นก็จะเพิ่มการเชื่อมต่อขึ้นอีกนับล้านๆ จุด  ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่าสมองจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ในส่วนของสติปัญญาของคนเรานั้น  สามารถจะพัฒนาให้เปลี่ยนแปลงได้ด้วย  เพราะความสามารถของสมองก็คือตัวบ่งชี้สติปัญญาของแต่ละบุคคลนั่นเอง
ทักษะหลักๆ  3  ประการของสมองก็คือความสามารถในการจำ  การเรียนรู้  และการใช้ความคิดสร้างสรรค์
ถ้าบุคคลใดสามารถมีความจำที่ดี  สามารถเรียนรู้ได้ดีและเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้วย  อย่างนี้ก็ถิอว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาชาญฉลาดด้วย  เพราะมันสมองของเขามี
แต่ที่ว่า ดี ในทักษะหลักๆ  3 ประการนั้น  เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความสามารถของสมองเรามีมากน้อยขนาดไหน  มาดูละเอียดทักษะทั้ง  สาม  ประการเถอะ
1. ความสามารถในการจำ
สมองของเรามีวิธีจำอยู่ 2 ระดับ  คือการจำระยะสั่นและระยะยาว
ความจำระยะสั้นคือ  ความจำในเรื่องพื้นฐานประจำวัน  เช่นต้องจำได้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในวันนี้  หรือหมายเลขรหัส ATM  ของ ส่วนตัวความจำระยะยาวคือความจำที่ไม่ไช่แค่ตั้งใจจะท่องจำก็สามารถจำได้  แต่เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน  เพราะความจำระยะบาวจะเป็นเรื่องต่างๆ  ที่มีขีดจำกัด
2. ความสามารถในการเรียนรู้
ถ้าคน 2 คนได้เรียนรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนกัน  แต่คนที่มีศักยภาพทางสมองดีกว่า  ก็จะสามารถนำความรู้นั้นไปวิเคราะห์หรือนำไปเป็นข้ออ้างอิงใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อไปได้  มิใช่แค่รู้ไว้อย่างเดียวแต่ไม่มีทางจัดการกับความรู้นั้นๆ  ให้เหมาะสมแต่ละโอกาสด้วย
3. ความคิดเชิงริเริ่มสร้างสรรค์
ยังมีคนอีกไม่น้อยที่คิดว่าความคิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์    เป็นเรื่องของพรสวรรค์  แต่ความเป้นจริงแล้วสิ่งที่เราสามารถพัฒนาและสรรค์ให้เกิดขึ้นได้  เราพะว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับศักยภาพในความคิดอะไรแลกๆ ใหม่ๆ  อยู่แล้ว  แต่ว่าบางคนไม่ได้ดึงมาใช้จึงไม่มีความมันใจในตัวเองว่าจะมีความคิดในเชิง นี้หรือไม่

Wednesday, August 22, 2012

เจ็บคอ-เสียงแหบ อาจถึงตาย!?


บางครั้งอาการเจ็บคอกับตัวร้อน อาจทำให้เข้าใจว่า เป็นไข้หวัด ทว่าบางทีอาจไม่ใช่ และอาจมีอันตรายยิ่งกว่า เช่น "ฝากล่องเสียงอักเสบ" ที่มีอาการใกล้เคียงกัน แต่จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันกว่า
 
เช่น เกิดเจ็บคอกะทันหัน ร่วมกับมีไข้ตัวร้อน จากนั้นไม่นานก็ไออย่างต่อเนื่อง รู้สึกกลืนอาหารลงคอไม่สะดวกหรือกลืนลงคอไม่ได้ เจ็บคอมากคล้ายกับมีเข็มทิ่มแทงอยู่ ทั้งยังเสียงแหบแห้ง และเสียหายจนไม่สามารถเปล่งเสียงดังๆ ได้ โดยอาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกว่าเกิดความผิดปกติขึ้นที่ฝากล่องเสียง
สำหรับฝากล่องเสียง อยู่บริเวณกระเดือกหรือกล่องเสียง จะคอยปิดหลอดลมเวลาที่คนเรากลืนอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารตกเข้าไปในหลอดลมจนเกิดอาการสำลัก แต่เมื่อคนเราหายใจ ฝานี้ก็จะเปิดออก อย่างไรก็ตาม ในภาวะปกติ ฝากล่องเสียงจะมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ไม่มีน้ำหนัก และจะเปิดออกเล็กน้อย เว้นแต่เกิดการอักเสบ ฝากล่องเสียงจะบวมและหนัก อาจอุดอยู่ที่คอส่งผลให้หายใจไม่ออก ซึ่งถ้าเป็นถึงขั้นนี้ถือว่ารุนแรง เสี่ยงเสียชีวิตได้
สาเหตุที่ทำให้ฝากล่องเสียงอักเสบ มักเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วร่างกายอ่อนแอ จนติดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าหญิง พฤติกรรมสูบบุหรี่ยังถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงด้วย
การรักษา แค่อ้าปากมองดูเฉยๆ จะไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องให้แพทย์หู คอ จมูก จะใช้อุปกรณ์ซึ่งเป็นกระจกส่องดูในลำคอ ถ้าพบการอักเสบที่เพิ่งเริ่มต้น จะใช้ยาปฏิชีวนะก็จะสามารถยับยั้งเชื้อได้ดี ทว่าเป็นหนักๆ อาจต้องให้ยาทางเส้นเลือด และให้ออกซิเจนช่วย บางครั้งอาจต้องใส่ท่อหายใจค้ำฝากล่องเสียงเอาไว้เพื่อให้หายใจได้
ครั้งหน้า ถ้านอนน้อยแล้วเป็นไข้ อย่าลืมจับสังเกตอาการเจ็บคอ เสียงแหบแห้ง เพื่อให้รู้ทันอาการกล่องเสียงอักเสบ กรณีไม่มั่นใจ ปรึกษาแพทย์ดีที่สุด.

แหล่งที่มา :   เดลินิวส์ออนไลน์



Sunday, July 29, 2012

ขนมไทยที่หาทานได้ยาก

ขนมสามเกลอ
       เป็น ขนมเสี่ยงทายในพิธีแต่งงาน ถ้าขนมยังติดกันทั้ง 3 ลูกในขณะที่ทอด หมายความว่า คู่บ่าวสาวที่จะแต่งงานจะอยู่ด้วยกันดี ตลอดจนมีลูกด้วยกัน แต่ติดกันอยู่เพียง 2 ลูก หมายความว่า มีลูกยากหรือไม่มี ถ้าแยกหรือหลุดออกทั้ง 3 ลูก หมายความว่า อยู่ด้วยกันไม่ยืด
       
        ขนมชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นไส้ที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าว มะพร้าวขูด และงา แล้วเอามาหุ้มด้วยแป้งข้าวเหนียว ส่วนที่สอง ทำจากไข่ไก่ (อาจจะใส่สีผสมอาหารด้วย เพื่อเพิ่มความสวยงาม) ที่นำมาโรยบนกระทะเป็นแผ่นบางๆ เพื่อนำมาห่อตัวขนม

ขนมโพรงแสม
       ขนม ชนิดนี้ใช้ในพิธีแต่งงาน โดยแทนเสาบ้านเสาเรือน เพื่อให้คู่บ่าวสาวอยู่กันยั่งยืนและร่ำรวย ลักษณะคล้ายๆขนมทองม้วน แต่ขนมชนิดนี้จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่มีน้ำตาลเคลือบพันร้อยอยู่ที่ตัวขนม
       
        เมื่อตัวขนมได้ถูกบดขยี้กับฟันและลิ้นที่สัมผัสรส จะให้ความรู้สึกกรุบกรอบน่ากัดกิน ผสมกับความหวานของน้ำตาลที่เคลือบขนมอย่างลงตัวไม่ที่ไม่หวานมากนัก ก็ยิ่งทำให้ขนมชนิดนี้เหมาะสำหรับการกินเล่น กับน้ำชาตอนบ่าย

 ขนมหม้อตาล

       เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในพิธีแต่งงาน เรียกว่า หม้อเงิน หม้อทอง
      
        ตัวถ้วยขนม ผสมแป้งสาลี น้ำเย็น ไข่แดง กรุแป้งในพิมพ์หม้อตาล อบให้สุก
      
        ไส้ ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำเคี่ยวให้ข้น ตักใส่ถ้วย หยดสีตามต้องการ หยอดลงในพิมพ์ ให้น้ำตาลแห้ง
      
        ดูจากลักษณะภายนอกดูกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก หลากสีสันชวนน้ำลายสอ เมื่อลองลิ้มชิมรสเนื้อแป้งของขนมที่กรอบจะเข้ากันดีกับตัวน้ำตาลที่หวานกำลังดี
       
 ขนมพระพาย
 เป็นขนมที่ใช้ในพิธีแต่งงาน
       ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำดอกมะลิ ใส่สีต่างๆ เพื่อหุ้มไส้ ที่ประกอบด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือกที่บดละเอียด ผสมกับกะทิ และน้ำตาล ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อหุ้มเสร็จแล้ว นำมาวางบนใบตองที่ตัดเป็นกลม ๆเมื่อนึ่งสุกแล้ว พรมด้วยหัวกะทิ
      
        เมื่อดูจากลักษณะภายนอกอาจจะดูคล้าย ขนมช็อกโกแลตชนิดหนึ่งที่กลมๆ เงาๆมันๆ น่ากัด น่ากิน

  ขนมเทียนแก้ว
       หรือ ขนมนมสาว เปรียบเสมือนแสงสว่าง
       
        ลักษณะที่สวยถูกต้อง ต้องปลายแหลม และฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส วางได้โดยไม่เสียรูปทรง ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก กวนกับกะทิและน้ำตาลทราย อบด้วยควันเทียน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ นำแป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม กวนกับน้ำตาลทราย และน้ำลอยดอกมะลิ
       
       ขนมชนิดนี้จะให้กลิ่นหอมสดชื่นน่ากินของควันเทียนและน้ำลอยดอกมะลิที่อบอวลอยู่ในเนื้อขนม

       ตะลุ่ม
       มี สองส่วน คือส่วนตัวขนม ทำแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง น้ำปูนใส และหางกะทิ นำไปนึ่งจนสุก ส่วนของตัวหน้า ได้แก่ หัวกะทิ ไข่ และน้ำตาล ใส่แป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย แล้วเทลงบนตัวที่สุกแล้ว นำไปนึ่ง เวลาเสิร์ฟตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำหรือลักษณะตามชอบ เวลาจะรับประทานควรรับประทานพร้อมกันเพราะให้รสชาติที่หวาน มัน และมีกลิ่นหอมของกะทิยามรับประทานในคำเดียวกัน

   บุหลันดั้นเมฆ
       ลักษณะ ของขนมจะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ เป็นขนมชาววังคิดประดิษฐ์ขึ้น ให้มีสีสันอุปมาอุปไมยเลียนแบบเพลงไทย ‘บุหลันลอยเลื่อน’ ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2
      
        มี 2 ส่วน คือ ส่วนตัวขนม ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำดอกอัญชัน น้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล เมื่อนำไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าว และนำไปนึ่งต่อจนสุก
      
        เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกถึงความหอมหวานของน้ำดอกอัญชันกับกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว
      



  เห็ดโคน
       ทำ จากไข่ขาวตีกับน้ำตาลทรายป่นจนตั้งยอด ใส่น้ำมะนาวเพื่อให้ไข่ไม่เหลว นำกระดาษขาวหนา ๆ มาม้วนเป็นกรวย ใส่น้ำตาลที่ตีแล้ว บีบกลม ๆ เป็นหัวเห็ด แล้วบีบยาว ๆ เป็นก้านเห็ด นำไปอบ พอสุกแล้วนำส่วนหัวมาเจาะตรงกลาง เพื่อติดกับตัวก้านเห็ดโดยใช้น้ำเชื่อม นำผงโกโก้ มาร่อนตระแกรงละเลงโรยบนหัวเห็ด
      
        สำหรับคนชอบกินเห็ดอาจจะเข้าใจผิดก็ได้เมื่อได้เห็นขนมชนิดนี้ เพราะคุณจะแยกไม่ออกว่าอันไหนเห็ดจริงอันไหนคือขนมเห็ด ส่วนเรื่องรสชาติจะออกหวานๆ เมื่อนำเข้าไปสัมผัสกับลิ้นแล้ว แทบจะละลายไปทันที

   เกสรชมพู่
       ขนม ไทยโบราณ เมื่อได้มองครั้งแรกอาจจะคิดว่าขนมชนิดนี้คือ “ข้าวเหนียวแก้ว” แต่ถ้าพิศมองให้ดีจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะมีลักษณะแข็งกระด้างของข้าวเหนียว ส่วนเกสรชมพู่จะดูนุ่มนวล อ่อนโยน ที่ทำจากมะพร้าวขูดขาว ผัดกับน้ำและน้ำตาลทราย ใส่วุ้นกวนให้เข้ากันใส่สีชมพูแก่ แล้วตักใส่ถ้วย เรื่องรสชาติเกสรชมพู่จะมีความมัน ความหอมของมะพร้าว และมีความหวานเป็นเอกลักษณ์










        หันตรา
       หรือขนมฝอย เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในงานหมั้น ซึ่งแสดงถึงการตีตราจองว่าหญิงนั้นมีคู่หมั้นแล้ว
      
        ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือก ที่นำมากวนกับน้ำตาลทราย แล้ว ปั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ กดตรงกลางให้บุ๋มแล้วมาห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นตาราง
      
        ขนมชนิดนี้เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาน่ารับประทาน เนื่องด้วยตัวของไส้ขนมและตัวไข่ที่นำมาหุ้มมีสีเหลืองทองที่เข้ากันอย่าง เหมาะเจาะ แลดูคล้ายขนมตระกูลทอง

   ขนมพันตอง
       แบ่ง เป็น 2 ส่วน แยกเป็น 2 ห่อ ห่อแรกคือส่วนผสมของไส้ ประกอบด้วยมะพร้าวกับน้ำตาลปี๊บ แล้วนำมาปั้นเป็นก้อน อีกห่อประกอบด้วย หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาล แล้วตักใส่ห่อ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้นควรจะรับประทานพร้อมกัน เพราะตัวแป้งและตัวไส้จะอร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว
      

โอลิมปิก2012เปิดฉากสุดยิ่งใหญ่

โอลิมปิก 2012 จัดพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ ขนนักแสดงกว่า 10,000 ชีวิต ร่วม แสดงวิถีประวัติศาสตร์ของ สหราชอาณาจักร พร้อมส่งคบเพลิงรูปบัวตูมสุดยิ่งใหญ่ อวดสายตาทั่วโลก
 พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติโอลิมปิก ครั้งที่ 30 "ลอนดอนเกมส์ 2012" ที่ประเทศสหราชอาณาจักร จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าภาพทุ่มงบกว่า 27 ล้านปอนด์ (1,350 ล้านบาท) สร้างฉากการแสดงสุดอลังการ โดยมี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบิร์ก พระสวามี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธาน
 ก่อนเริ่มการแสดงในสนาม แบร็ดลี่ย์ วิกกิ้นส์ เจ้าของแชมป์ ตูร์ เดอ ฟร้องซ์ คนล่าสุด ได้รับเกียรติให้เป็นคนลั่นระฆังยักษ์น้ำหนัก 27 ตันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดงาน ก่อนการแสดงพิธีเปิดจะเริ่มขึ้น
โดยที่ แดนนี่ บอยล์ ผู้กำกับรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ที่กำกับการแสดงในพิธีเปิด ได้ขนนักแสดงราว 10,000 ชีวิต พร้อมกับเนรมิต โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในลอนดอน ให้เป็นเมืองชนบทที่สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิมของทั้ง 4 ชาติ ประกอบไปด้วย สก็อตแลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ, เวลส์ และอังกฤษ ที่ถือเป็นชาติต้นแบบของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ขณะที่ในช่วงก่อนเริ่มพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ แดนนี่ บอยล์ ผู้กำกับมือทอง สร้างความฮือฮาด้วยการตัดต่อภาพยนตร์สั้น โดยมี แดเนี่ยล เคร็ก นักแสดงชาวอังกฤษ ผู้รับบท เจมส์ บอนด์ 007 คนล่าสุด เดินทางไปรับตัว สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม
พร้อมกับเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เข้าสู่พื้นที่เปิดการแข่งขัน ก่อนที่สตั๊นท์แมนซึ่งแต่งตัวเหมือนบอนด์ และ สมเด็จพระราชินี จะกระโดดร่มลงเเหนือโอลิมปิก สเตเดี้ยม เป็นสัญญาณการเริ่มต้นการแสดงในสนาม
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาพร้อมกับ เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบิร์ก พระสวามี ประทับนั่งร่วมกับ ฌากส์ ร็อกก์ ประธานสภาโอลิมปิกสากล หรือ "ไอโอซี" โดยในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพิธีเปิด ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน
 ภายหลังเสร็จสิ้นการแสดงในสนาม ต่อด้วยขบวนพาเหรดนักกีฬาในพิธีเปิดการแข่งขัน โดย กรีซ ในฐานะถิ่นกำเนิดโอลิมปิกยุคโบราณ เริ่มนำขบวนมาเป็นชาติแรก จากนั้นเรียงตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่ง ไทย เดินเข้าสนามเป็นลำดับที่ 183 โดยมี เจมส์บอนด์ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ นักว่ายน้ำหนุ่มทีมชาติไทยได้รับเกียรติให้ถือธงไตรรงค์นำขบวนนักกีฬาไทย และปิดท้ายขบวนด้วยทัพ สหราชอาณาจักร เจ้าภาพจัดการแข่งขัน
ส่วนพิธิจุดคบเพลิงในสนาม ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่ทั่วโลกรอคอย เจ้าภาพส่ง เดวิด เบ็คแฮม ยอดนักเตะขวัญใจเจ้าถิ่น นำไฟโอลิมปิกล่องเรือมาตามแม่น้ำเท็มส์ ขึ้นฝั่งส่งต่อให้ เซอร์ สตีฟ เรดเกรฟ อดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 5 สมัย นำไฟโอลิมปิกวิ่งเข้าสู่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม  ก่อนส่งต่อให้นักกีฬาดาวรุ่งอีก 7 คน วิ่งไปรอบสนาม 1 รอบ แล้วเข้าไปจุดไฟตรงใจกลางสนาม โดยที่เป็นลักษณะโคมไฟล้อมเป็นวงกลม ปล่อยให้ไฟลุกโชติช่วงจนเต็มวง ก่อนที่ดวงโคมไฟดวงเล็กดวงน้อยจะลอยขึ้นเหมือนดอกบัว หุบเข้าสู่ใจกลาง ก่อนที่จะรวมกลุ่มเป็นกระถางคบเพลิงอย่างสวยงาม เป็นการเปิดการแข่งขันศึกโอลิมปิก 2012 อย่างเป็นทางการ

ภาพพิธีเปิด