Wednesday, September 29, 2010

พู่กัน (Brush)

พู่กันเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนช่วย ให้งานศิลปะ ได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ การเลือกพู่กันที่ดี ที่ถูกต้องเหมาะสมกับสีจะทำให้สามารถสนองตอบความรู้สึก อารมณ์ ของศิลปิน พู่กันแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัวซึ่งพู่กันที่ดี (Raphael และ Pyramid ) จะได้รับความพิถีพิถันในการเลือกขนเพื่อมาทำพู่กัน ให้เหมาะสมกับพู่กันแต่ละประเภท

พู่กันสีน้ำ
พู่กันสีน้ำที่ดีควรมีลักษณะขนที่อ่อนนุ่ม สามารถอุ้มน้ำ อุ้มสี ได้มาก มีการคืนตัวที่ดี มีแรงสปริง และแรงดีดพอสมควร ทำจากขนสัตว์ ขนสัตว์ สำหรับสีน้ำ


ขนนก Petit Gris เป็นขนที่ดีที่สุดในการทำนำมาทำพู่กัน มีคุณสมบัติที่ไม่ดูดซับสีมากเกินไป เนื้อขนที่ละเอียด อ่อนนุ่มและพลิ้วไหว โปร่งเบา ลักษณะขนสีน้ำตาล Kazan,สีน้ำเงิน,สีทอง ได้รับการเลือกมาทำพู่กันมากที่สุด


ขน Red Sable มีลักษณะขนสีทองอมน้ำตาลแดง มีคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มสีได้ดีเยี่ยม และมีการตอบสนองที่ไม่สามารถหาที่เปรียบได้ มีความสามารถในการคืนตัว และความยึดหยุ่น มีความหนาของขนทำให้มีคุณสมบัติในการดีดตัว ขน Kolinsky และ Red Sable เป็นขนที่มาจากแถบไซบีเรีย จึงมีคุณสมบัติในการขยายตัวซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ และ “ในปัจจุบัน Raphael เป็นพู่กันเพียงยี่ห้อเดียวที่ใช้ขน Kolinsky มาผลิตพู่กัน”


ขนกระรอก เป็นขนที่มีลักษณะขนไม่อ่อนนุ่มมากนัก แต่ก็สามารถอุ้มสี และอุ้มน้ำได้ดี


ขนกระต่าย เป็นขนที่มีลักษณะอ่อนนุ่มมาก สามารถอุ้มน้ำ และอุ้มสีได้มาก


ขน Pony เป็นขนที่มีลักษณะไม่อ่อนนุ่มมาก แต่สามารถอุ้มน้ำ และอุ้มสีได้มาก


ขน Synthetic สำหรับ สีน้ำ ขน Synthetic เป็นขนที่มีความอ่อนนุ่ม และมีความยึดหยุ่นดี ถึงแม้จะไม่สามารถดูดซับสี และน้ำได้ดีเท่ากับขนจากธรรมชาติ แต่ก็เลียนแบบในด้านรูปทรงได้ใกล้เคียงที่สุด มีข้อดี คือ ด้านความคงทน และอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าขนจากธรรมชาติ โดยเฉพาะขนสีทอง และ Raphael ก็เป็นยี่ห้อเดียวที่ผลิตพู่กันโดยใช้ขน Synthetic

Marco Polo


Marco Polo (1254-1324)
Marco Polo is famous for his travels through Asia. He was one of the first Europeans to travel into Mongolia and China. He became famous for his book that told the story of his travels along the Silk Road to China.

Marco Polo was born in Venice, Italy around 1254. In 1271, when he was 17 years old, he traveled to Asia with his father and uncle. On this journey, he became a favorite of Kublai Khan, the Mongol Emperor. He roamed through Mongolia and China for 17 years. He traveled farther into China than any European had gone before. Finally, he took a ride to Persia and then back home. In all, he was gone for 24 years!

When he returned to Venice in 1295, he became a popular storyteller. People gathered at his home to hear his stories of his travels in the Far East.

In 1298, there was a conflict between Venice and Genoa. Polo was captured by the Genoese and imprisoned by them. While in jail, Marco dictated the story of his travels to a writer who published the book, The Travels of Marco Polo. The book helped to make Europeans very interested in trading with China and the Far East, and that led to the explorations of Columbus and many others who were searching for a quicker way to sail to China and India.

Marco Polo died in 1324.

Monday, September 20, 2010

นมควาย อาหารสุขภาพจากควายสู่คน

จุดเด่นของน้ำนมควายมูร์ร่าห์นั้น มีสารอาหารสูงกว่านมวัว ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ รวมถึง มีสีขาวเนียนชวนดื่ม ทั้งยังไม่มีกลิ่นคาว ดื่มง่ายกว่านมแพะ และ Butter Fat ในนมควายก็มากเป็นสองเท่าของนมวัว ในขณะที่ค่าคลอเลสเตอรอลต่ำกว่า นอกจากนั้น ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Natural Antioxidant) เหมาะ สำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในน้ำนมวัว ซึ่งถ้าวัดกันเฉพาะเรื่องสารอาหารแล้วควายปลักพื้นเมืองของไทยมีคุณสมบัติเหนือกว่าพันธุ์มูร์ร่าห์ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากควายปลักให้น้ำนมได้เพียงวันละ 1 กก./ตัว เท่านั้น จึงไม่เหมาะจะเลี้ยงหวังน้ำนม ส่วนการเลี้ยงควายทั้งสองชนิดไม่แตกต่างกัน แม้ควายมูร์ร่าห์จะเป็นสายพันธุ์ต่างชาติ แต่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยได้ดี

ตารางเปรียบเทียบคุณภาพน้ำนมของสัตว์แต่ละชนิด

ส่วนประกอบ

หน่วย

นมควาย

มูร่าห์

นมวัว

นมแพะ

นมแกะ

โปรตีน

gm

4.5

3.2

3.1

5.4

แคลเซียม

iu

195

120

100

170

คลอเลสเตอรอล

mg

8.0

14

10

11

ไขมัน

gm

8.0

3.9

3.5

6.0

คาร์โบไฮเดรต

gm

4.9

4.8

4.4

5.1

พลังงาน

K cal

110

66

60

95

K j

463

275

253

396

น้ำตาล (แลคโตส)

gm

4.9

4.8

4.4

5.1

Fatty acid Saturated

gm

4.2

2.4

2.3

3.8

Monounsaturated

gm

1.7

1.1

0.8

1.5

Polyunsaturated

gm

0.2

0.1

0.1

0.3



ในบ้านเรายังยึดติดกับความเชื่อที่ว่า "ควายโง่" การดื่มนมควายอาจทำให้โง่ตามไปด้วย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริงเลย เรายังเคยไปชมการแสดงของควายแสนรู้ ที่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี มาแล้ว ออกจะฟังรู้เรื่องสั่งอะไรก็ทำได้หมด ดังนั้นผู้บริดภคต้องแยกให้ออกระหว่าง "ความเชื่อ" กับ" โภชนาการ" อย่าลืมว่าผลจากการวิจัยเปรียบเทียบสารอาหารในน้ำนม ก็ชี้ชัดว่า นมควายจะมีสานอาหารมากกว่านมวัว โปรตีนสูงกว่า แคลเซียมสูงกว่า แต่คอเรสเตอรอลต่ำกว่า

Friday, September 10, 2010

ปาโบล ปีกัสโซ จิตรกรเอกผู้ล่วงลับ

-ปาโบล ปีกัสโซ (Pablo Ruiz Picasso) (ตุลาคม 25, 1881 – เมษา 8, 1973)จิตรกรเอกของโลก เป็นบุคคลที่นิตยสาร TIME ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ปิกัสโซเกิดที่เมืองมาลากา [Málaga] ที่แคว้นแอนดาลูเซียน [Andalusian]ประเทศ สเปน เป็นบุตรชายคนโตของ Don José Ruiz y Blasco (1838–1913) กับ María Picasso y López บิดาเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย เขาฉายแววการเป็นศิลปินระดับโลกด้วยการพูดคำว่า piz, piz ซึ่งมาจากคำว่า lápiz (ลาปิซ) ที่แปลว่า ดินสอในภาษาสเปนเป็นคำแรกแทนที่จะพูดคำว่า แม่ เหมือนเด็กทั่วไป ในวัยเด็กถ้าเขาไม่ได้อุ้มนกพิราบที่เลี้ยงไว้ไปโรงเรียนด้วยละก็ เขาจะไม่ไปโรงเรียนเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมไปจนกว่าจะได้พามันไปด้วย
-ปีกัสโซได้รับจานสีและพู่กันเป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุ 6 ขวบจากบิดา ครั้งนึงที่บิดาของปีกัสโซกำลังวาดรูปนกพิราบของเขาอยู่นั้น สิ่งที่น่าทึ่งก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อบิดาของเขาออกไปจากห้องเพื่อทำอะไรบางอย่าง ปีกัสโซได้เข้าไปในห้อง แล้ววาดภาพนกพิราบต่อจนเสร็จ เมื่อบิดาเขากลับเข้ามาจึงได้พบว่าภาพที่วาดนั้น เสร็จสมบูรณ์และมีพลังมากกว่าที่ตนเองวาดเสียอีก
-ปีกัสโซเริ่มสูบซิการ์ตั้งแต่อายุ 12 ปี จึงอาจเป็นสาเหตที่ทำให้เขามีปัญหาเกี่ยวกับ ทางเดินหายใจ ปิกัสโซเสียชีวิตเมื่ออายุ 91 ปี

ภาพเขียนของปีกัสโซแบ่งเป็นช่วงต่าง ๆ ได้ ดังนี้
Blue Period 1901-1904 (ยุคสีน้ำเงิน)
Rose Period 1904-1906 (ยุคสีชมพู)
African - Influenced Period
Cubism (บาศกนิยม)
Classicism and surrealism (ยุดคลาสสิคและเหนือจริง)
Later works (ยุคสุดท้าย)

อยากสูงต้องลอง!

1.ออกกำลังกายโดยการกระโดดเชือกวันละ 30 นาที (จะแบ่งเป็นทำครั้งละ 1 - 5 นาทีแล้วพักก็ได้แต่ต้องทำให้ครบ 30 นาที ไม่รวมเวลาพัก นับแต่เวลาโดด)
2. ก่อนออกกำลังควรทำท่าเหยียดตัวหรือยืดเส้นยืดสายก่อนกระโดด 5 นาที
3. หลังกระโดดครบ 30 นาที แล้ว ควรพัก 3 นาที
4. เตรียมกระโดดสูงโดยโดดให้สูงจากพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ถ้านึกไม่ออกก็ดูนักวอลเลย์บอลเข้ากระโดดตบลูกหน้าเน็ต หรือนักบาสกระโดดยัดลูกเข้าห่วง) แต่การกระโดดควรกระโดดอยู่กับที่จะได้ไม่เหนื่อยมาก โดดครั้งละ 10 ที แบ่งเป็นเซต เซตละ 10 ทีทำจนครบ 5 - 6 เซต ห้ามต่ำกว่า 5 เซต
5. ทำทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เสาร์ - อาทิตย์พัก
6. ดื่มนมที่มีวิตามินดีเยอะๆนมตราหมีที่ไม่ใช่ของเด็กกินนะหมีกล่องใหญ่นะดื่มวันละ 3 กล่อง 2 กล่องตอนเช้า 1 กล่องตอนกลางวัน (ตอนเช้าควรเสริมด้วยไมโล 1 แก้ว กลางวันก็เช่นกัน) ตอนเย็นดื่มนมเปรี้ยวตามด้วยนมถั่วเหลืองที่ผสมงาดำอย่างละ 1 กล่อง
7.ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นเนื้อสัตว์กับผักและผลไม้ให้มากๆ กล้วยน้ำว้าก่อนออกกำลัง 30 นาที 2 ใบจะดี (ให้พลังงาน)
8. ดื่มน้ำมากๆวันละ 2 - 3 ลิตรช่วยทำให้ไม่อ้วนทำให้กล้ามเนื้อกระชับไม่บวม
9. นอนตอน 3 ทุ่มขึ้นไป ห้ามนอนเกินเที่ยงคืน ฮอร์โมนสร้างความเจริญเติบโตจะหลั่งตั้งแต่เที่ยงคืน - ตี 5
*หมายเหตุ ควรตื่นนอนประมาณ 8 โมงเช้าทุกวันถ้าสามารถทำได้ในช่วงปิดเทอม*

Saturday, September 4, 2010

เรื่องใกล้ตัวที่คุณไม่รู้

การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยดจะแก้เผ็ดได้ จริงหรือ

จริง อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้นร่างกายจะก็จะแสดงปฎิกริยา โดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป

ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ

จริง โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆ ของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมด แล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ

นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาได้ จริงหรือ จริง โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

การกินเนยก่อนนอนทำให้นอนหลับสนิทขึ้น จริงหรือ

จริง เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มีชื่อว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับได้สนิทดีขึ้น

กินส้มช่วยแก้อาการเซ็งได้ จริงหรือ

จริง การรับประทานส้มโดยปอกเปลือกเองจะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวนที่เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมาด้วย

การกินช็อคโกแล๊ตช่วยแก้ไอได้ จริงหรือ

จริง เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ตมีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ผล

การกินบ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้ จริงหรือ

จริง เพราะ การที่คนเรามีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความเป็นด่างได้ทัน แต่บ๊วยมีความเป็นด่าง Ph 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึงช่วยถ่วงดุลความเป็นด่างได้ และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มากอีกด้วย

การกินอาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้ จริงหรือ

จริง เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัวง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น สารอาหาร ไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง สมองจึงค่อยๆ เสื่อม


การทะเลาะกันทำให้แผลหายช้า จริงหรือ

จริง เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ดเลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลง ทำให้บาดแผลต่างๆ หายช้า

แสงแดดอ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ จริงหรือ

จริง เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึมเซา ได้

การฟังเพลงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จริงหรือ

จริง เพราะ การฟังเพลงทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และบรรเทาอาการปวดข้อลงได้