Monday, January 14, 2013

ทำไมยาคูลท์ถึงมีแต่ขวดเล็ก ?



เคยสังเกตหรือเปล่าคะว่ายาคูลท์ที่เราดื่มเป็นประจำทำไมถึงมีแต่ขนาด 80 cc. ไม่มีขนาดอื่นเหมือนกับนมเปรี้ยวยี่ห้ออื่นๆ วันนี้เรามีคำตอบ

ยาคูลท์มีแต่ขนาด 80 cc เป็นเพราะว่า ยาคูลท์เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่ได้จากการหมัก โดยเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรีย ชื่อ แลคโตบาซิลลัส ที่ทำให้เกิดรสชาติเปรี้ยว เนื่องจากเกิดกรดขึ้นมาหลายชนิดระหว่างกระบวนการหมัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดแลคติก ปัจจุบันใช้เชื้อชื่อ Lactobaciius Balgaricu ร่วมกับ Stroptcoccus themophilus ในอุตสาหกรรมผลิตนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต

โดยปกติธรรมชาติแล้ว จุลินทรีย์ชนิดนี้มีอยู่แล้วตามทางเดินอาหารของคนเรา และเป็นจุลินทรีย์ที่ดีมีประโยชน์ ช่วยทำให้เกิดกระบวนการย่อย และหมักในทางเดินอาหาร ในส่วนที่ร่างกายคนเราไม่สามารถย่อยได้ จุลินทรีย์กลุ่มนี้จะคอยช่วยเหลือ ถ้ามีจำนวนมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อเราได้เช่นกัน คืออาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ เพราะจุลินทรีย์ผลิตกรดขึ้นมา ซึ่งเป็นผลทำให้ยาคูลท์ผลิตขนาดเดียว คือ 80 cc. ที่พอเหมาะกับปริมาณของเชื้อแลคโตบาซิลลัส โดยสังเกตข้างขวดที่เขียนไว้ว่า มีเชื้อแลคโตบาซิลลัส 8.0 x 10 ( ยกกำลัง 9)

ถ้าทำยาคูลท์ให้มีขนาดใหญ่พอๆ กับยาคูลท์ 6 ขวดเล็กรวมกันคงไม่ดีต่อผู้บริโภคแน่ เพราะจะทำให้ได้รับปริมาณเชื้อแลคโตบาซิลลัสมากเกินพอ หรือถ้าจะทำขนาด 450 cc. ขึ้นมาจริงๆ แล้ว ลดปริมาณแลคโตบาซิลลัสลงอาจจะทำได้ แต่เชื่อแน่ว่ารสชาติของยาคูลท์อาจจะเปลี่ยนไปไม่อร่อยเหมือนเคย

และถ้าหากเราทานยาคูลท์วันละ 6 ขวด เพื่อความอร่อยแต่อาจเกิดโทษได้ ทานวันละขวดก็เพียงพอแล้ว คนที่ไม่ทานเลยก็ไม่ว่าอะไร เพราะว่าในร่างกายของเรามีจุลินทรีย์ชนิดนี้อยู่เรียบร้อยแล้ว อีกเรื่องที่ควรสังเกต เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ยาคูลท์ คือ อย่าลืมดูวันหมดอายุข้างขวด และเลือกซื้อจากตู้แช่ที่เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้จุลินทรีย์พร้อมที่จะทำงานให้เราได้ทันทีค่ะ

ที่มา

http://www.vcharkarn.com/varticle/43805

Saturday, December 8, 2012

ทำไมขวดไวน์ต้องวางแนวนอน?



ทำไมขวดไวน์ที่วางขายอยู่ในร้านจึงต้องวางขวดในแนวนอน  เพราะว่าน้ำไวน์จะหล่อเลี้ยงจุกก๊อกที่ปากขวดให้เปียกชุ่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกไหลซึมเข้าไปในขวด เพราะถ้ามีอากาศซึม เข้าไปในขวดจะทำให้ไวน์เสียได้  ร้านไวน์จึงใช้วิธีนี้เพื่อยืดอายุไวน์

ไวน์ขาวจะมีความสมบูรณ์ในช่วง 5-6 ปี นับจากวันที่ผลิต โดยแรกเริ่มจะมีสีเหลืองตองอ่อน เมื่อเพิ่มอายุขึ้นจะมีสีเหลืองเข้ม เมื่อใกล้หมดอายุจะมีสีน้ำตาลเข้ม

ไวน์แดงจะมีอายุยืนยาวกว่าไวน์ขาว แรกเริ่มจะมีสีแดงอมม่วง จากนั้นจะเป็นสีแดงสด ซึ่งเป็นช่วงที่พร้อมดื่มและจะกลายเป็นสีแดงอมน้ำตาลและซีดลงเรื่อยๆจนออกสีส้มเมื่อหมดสภาพ

การดื่มไวน์ควรดื่มที่ความเย็นราว 8-12 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยลดความเป็นกรดของไวน์และให้ความสดชื่นที่สุด

Wednesday, October 17, 2012

โสมพืชมหัศจรรย์



 โสมมีสรรพคุณในการป้องกันและบำบัดรักษาโรคต่างๆ โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ดังนั้นโสมจึงได้รับความนิยมและความเชื่อถือมาเป็นนาน การนำโสมมาเพิ่มเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ เช่น กาแฟโสม ที่มีสรรพคุณด้านลดน้ำหนัก และในเรื่องความสวยความงาม โสมได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดีและเป็นที่รู้จักกันดี ในกลุ่มคนเกาหลี จีน และญี่ปุ่น จนมีคำกล่าวว่า โสมเป็นยาอมตะหรือยาที่มหัศจรรย์ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน

       โสม เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป แต่โสมที่ได้รับความนิมมากที่สุด และดีที่สุดคือ โสมที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเกาหลี และจีน สารสำคัญที่ตรวจพบในรากโสมที่มีฤทธิ์ในทางรักษาโรคคือ Ginsenosides ที่มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของร่างกาย (หยิน-หยาง) ได้เป็นอย่างดี โสมจะดีมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปริมาณ Ginsenosides ที่มีอยู่ในรากโสมนั่นเอง


       โสม ยังมีประโยชน์ในการช่วยให้เนื้อเยื่อดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้น จึงทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเกิดได้มากขึ้น ในโสมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการทำลายเซลล์ให้แก่ก่อนวัยและยังมีประสิทธิภาพในการเป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้อีกด้วย


       นอกจากนี้โสมยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยและลดความเครียดได้ หากเป็นคนทำงานหนัก หรือเครียดกับเรื่องต่างๆ รอบตัว ให้กินโสม โสมจะช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงและคลาย เครียด และโสมยังเป็นยาบำรุงให้เกิดผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย


       การกินโสมให้ได้ผลดีต้องรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องโดยหลังจากกินโสมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงไม่ควรกินอาหารอย่างอื่นตามและอย่าใช้โสมร่วมกับสารต่างๆ ที่มีภาวะเป็นกรดเช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว อาหารที่มีรสเปรี้ยว เพราะสรรพคุณของโสมจะถูกทำลายโดยความเป็นกรดได้

Saturday, September 15, 2012

ลิฟท์ประดิษฐ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อใด?

ลิฟต์ตัวแรกสร้างขึ้นโดยบริษัทแห่งหนึ่งทางตะวันตกของ เยอรมันเมื่อ ค.ศ.1887 เป็นลิฟต์ที่ตั้งอยู่ในหอสูงกลางงานนิทรรศการทางอุตสาหกรรมสามารถยกขึ้นสูง ด้วยความเร็วนาทีละ 120 เมตร เพื่อใหผู้เข้าชมงานสามารถมองเห็นบริเวณงานทั้งหมดจากที่สูงได้

คิ้วทำหน้าที่อะไร?

เมื่ออากาศร้อน คิ้วจะช่วยป้องกันไม่ให้เหงื่อที่ไหลจากหน้าผากเข้าตา และยังช่วยป้องกันแสงแดด ถ้าแดดจ้ามาก เราจะย่นหน้าผาก ตอนนั้นคิ้วจะเหยียดเป็นเส้นตรง ทำให้บังแสงแดดแรงๆได้ โดยผิวหน้าบริเวณคิ้วเป็นส่วนที่นูนยื่นออกมาเหนือจา ทำหน้าที่รับแรงกระแทก

Friday, August 31, 2012

การฟื้นฟูสมอง เพิ่มความฉลาดทางปัญญา

แม้ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นในแต่ละปี  พลังสมองก็จะค่อยๆเสื่อมลงเป็นธรรมดาแต่จริงๆ  แล้วถ้าเราบริหารสมอง  มันก็เป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพของสมองให้คงฟิตเปรี๊ยะอยู่เสมอิ  ถ้ามีการกระตุ้นสมองเป็นประจำ  ในสมองของเรานั้นก็จะเพิ่มการเชื่อมต่อขึ้นอีกนับล้านๆ จุด  ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่าสมองจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ในส่วนของสติปัญญาของคนเรานั้น  สามารถจะพัฒนาให้เปลี่ยนแปลงได้ด้วย  เพราะความสามารถของสมองก็คือตัวบ่งชี้สติปัญญาของแต่ละบุคคลนั่นเอง
ทักษะหลักๆ  3  ประการของสมองก็คือความสามารถในการจำ  การเรียนรู้  และการใช้ความคิดสร้างสรรค์
ถ้าบุคคลใดสามารถมีความจำที่ดี  สามารถเรียนรู้ได้ดีและเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้วย  อย่างนี้ก็ถิอว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาชาญฉลาดด้วย  เพราะมันสมองของเขามี
แต่ที่ว่า ดี ในทักษะหลักๆ  3 ประการนั้น  เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความสามารถของสมองเรามีมากน้อยขนาดไหน  มาดูละเอียดทักษะทั้ง  สาม  ประการเถอะ
1. ความสามารถในการจำ
สมองของเรามีวิธีจำอยู่ 2 ระดับ  คือการจำระยะสั่นและระยะยาว
ความจำระยะสั้นคือ  ความจำในเรื่องพื้นฐานประจำวัน  เช่นต้องจำได้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในวันนี้  หรือหมายเลขรหัส ATM  ของ ส่วนตัวความจำระยะยาวคือความจำที่ไม่ไช่แค่ตั้งใจจะท่องจำก็สามารถจำได้  แต่เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน  เพราะความจำระยะบาวจะเป็นเรื่องต่างๆ  ที่มีขีดจำกัด
2. ความสามารถในการเรียนรู้
ถ้าคน 2 คนได้เรียนรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนกัน  แต่คนที่มีศักยภาพทางสมองดีกว่า  ก็จะสามารถนำความรู้นั้นไปวิเคราะห์หรือนำไปเป็นข้ออ้างอิงใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อไปได้  มิใช่แค่รู้ไว้อย่างเดียวแต่ไม่มีทางจัดการกับความรู้นั้นๆ  ให้เหมาะสมแต่ละโอกาสด้วย
3. ความคิดเชิงริเริ่มสร้างสรรค์
ยังมีคนอีกไม่น้อยที่คิดว่าความคิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์    เป็นเรื่องของพรสวรรค์  แต่ความเป้นจริงแล้วสิ่งที่เราสามารถพัฒนาและสรรค์ให้เกิดขึ้นได้  เราพะว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับศักยภาพในความคิดอะไรแลกๆ ใหม่ๆ  อยู่แล้ว  แต่ว่าบางคนไม่ได้ดึงมาใช้จึงไม่มีความมันใจในตัวเองว่าจะมีความคิดในเชิง นี้หรือไม่

Wednesday, August 22, 2012

เจ็บคอ-เสียงแหบ อาจถึงตาย!?


บางครั้งอาการเจ็บคอกับตัวร้อน อาจทำให้เข้าใจว่า เป็นไข้หวัด ทว่าบางทีอาจไม่ใช่ และอาจมีอันตรายยิ่งกว่า เช่น "ฝากล่องเสียงอักเสบ" ที่มีอาการใกล้เคียงกัน แต่จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันกว่า
 
เช่น เกิดเจ็บคอกะทันหัน ร่วมกับมีไข้ตัวร้อน จากนั้นไม่นานก็ไออย่างต่อเนื่อง รู้สึกกลืนอาหารลงคอไม่สะดวกหรือกลืนลงคอไม่ได้ เจ็บคอมากคล้ายกับมีเข็มทิ่มแทงอยู่ ทั้งยังเสียงแหบแห้ง และเสียหายจนไม่สามารถเปล่งเสียงดังๆ ได้ โดยอาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกว่าเกิดความผิดปกติขึ้นที่ฝากล่องเสียง
สำหรับฝากล่องเสียง อยู่บริเวณกระเดือกหรือกล่องเสียง จะคอยปิดหลอดลมเวลาที่คนเรากลืนอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารตกเข้าไปในหลอดลมจนเกิดอาการสำลัก แต่เมื่อคนเราหายใจ ฝานี้ก็จะเปิดออก อย่างไรก็ตาม ในภาวะปกติ ฝากล่องเสียงจะมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ไม่มีน้ำหนัก และจะเปิดออกเล็กน้อย เว้นแต่เกิดการอักเสบ ฝากล่องเสียงจะบวมและหนัก อาจอุดอยู่ที่คอส่งผลให้หายใจไม่ออก ซึ่งถ้าเป็นถึงขั้นนี้ถือว่ารุนแรง เสี่ยงเสียชีวิตได้
สาเหตุที่ทำให้ฝากล่องเสียงอักเสบ มักเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วร่างกายอ่อนแอ จนติดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าหญิง พฤติกรรมสูบบุหรี่ยังถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงด้วย
การรักษา แค่อ้าปากมองดูเฉยๆ จะไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องให้แพทย์หู คอ จมูก จะใช้อุปกรณ์ซึ่งเป็นกระจกส่องดูในลำคอ ถ้าพบการอักเสบที่เพิ่งเริ่มต้น จะใช้ยาปฏิชีวนะก็จะสามารถยับยั้งเชื้อได้ดี ทว่าเป็นหนักๆ อาจต้องให้ยาทางเส้นเลือด และให้ออกซิเจนช่วย บางครั้งอาจต้องใส่ท่อหายใจค้ำฝากล่องเสียงเอาไว้เพื่อให้หายใจได้
ครั้งหน้า ถ้านอนน้อยแล้วเป็นไข้ อย่าลืมจับสังเกตอาการเจ็บคอ เสียงแหบแห้ง เพื่อให้รู้ทันอาการกล่องเสียงอักเสบ กรณีไม่มั่นใจ ปรึกษาแพทย์ดีที่สุด.

แหล่งที่มา :   เดลินิวส์ออนไลน์