Friday, October 28, 2011

ที่มาของเพลง Happy Birthday

เพลง "Happy Birthday to you" ซึ่งกินเนสบุกระบุว่าเป็นเพลงภาษาอังกฤษที่มีการร้องบ่อยที่สุด แต่งทำนองโดยแพ็ตตี้ ฮิลล์ และ มิลเดร็ด ฮิลล์ พี่น้องชาวอเมริกันจากรัฐเคนทักกี้ในปี พ.ศ. 2436 โดยเริ่มแรก สองพี่น้องซึ่งเป็นครูสอนในโรงเรียน Louisville Experimental Kindergarten Schoolได้ตั้งใจใช้สำหรับทักทายนักเรียนในชั้นโดยใส่ประโยคว่า"Good Morning to All" (อรุณสวัสดิ์ทุกคน)

ขณะที่ แพตตี้ ผู้เป็นน้องสาวนั้นเป็นครูใหญ่มิลเดรดแต่งทำนองเพลงนี้ขึ้นโดยแพตตี้ก็แต่งเนื้อร้องให้ จนได้เพลงชื่อ"Good Morning to All"ซึ่งพี่น้อง 2 คนใช้เป็นเพลงทักทายเด็กในชั้นเรียน

เนื้อเพลงตามต้นฉบับดั้งเดิม มีดังนี้

Good morning to you

Good morning to you

Good morning, dear children

Good morning to all

ต่อมา บทเพลงดังกล่าวก็ถูกพิมพ์ลงหนังสือเพลง"Song Stories For The Kindergarten" จึงเป็นที่รู้จักและครูในโรงเรียนอื่นก็ใช้เอาไปร้องทักนักเรียนด้วยจากนั้นไม่นานก็เป็นที่นิยมสำหรับเด็กนักเรียนเอาไปใช้ร้องกับครูแทน และก็เป็นที่รู้จักในชื่อ "Good Morning To You"เนื่องจากเนื้อเพลงท่อนที่ 3 นั้นถูกเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมแต่สำหรับใครเป็นผู้คิดแต่งเนื้อพลงให้กลายเป็น"Happy Birthday to You"ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนแต่งขึ้น

พบว่าเนื้อเพลงนี้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ในหนังสือเพลงฉบับหนึ่งในปี 1924 โดยเป็นเนื้อเพลงบทที่ 2 ของเพลง"Good Morning to You"จากนั้นหนังหลายเรื่องและรายการวิทยุก็นำไปใช้เป็นเพลงอวยพรวันเกิดจาก"Good Morning To You" ก็เลยเปลี่ยนไปเป็น"Happy Birthday To You" ในที่สุด

Wednesday, October 19, 2011

กรุงนิวเดลลีของอินเดียเผย"ผู้หญิงขับรถปลอดภัยกว่าผู้ชาย"

หัวหน้าตำรวจจราจรในกรุงนิวเดลลี เมืองหลวงของอินเดีย เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ผู้หญิงในกรุงนิวเดลลีมีสถิติขับรถปลอดภัยกว่าผู้หญิง โดยมีเพียง 1 เปอร์เซนต์ที่ก่ออุบัติเหตุรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวนผู้ที่ถูกจับกุมจากการก่อเหตุขับรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,147 ราย ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ในกรุงนิวเดลลี มีผู้หญิงขับรถเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นบนท้องถนนด้วย

ด้านผู้สันทัดกรณีระบุว่า กรณีดังกล่าวพลิกความเชื่อเดิมว่า ผู้หญิงมักจะเป็นนักขับรถยนต์ที่ก้าวร้าว และก่ออุบัติเหตุขับรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยในช่วงปีนี้ มีผู้หญิงเพียง 12 รายจากจำนวน 736 ราย ที่ก่ออุบัติเหตุขับรถยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวยิต นับตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.และตัวเลขเหล่าชี้ ไม่ได้สนับสนุนความเชื่อว่า ผู้หญิงเป็นนักขับรถที่แย่

กรุงนิวเดลลีมีรถยนต์เป็นจำนวน 6.5 ล้านคัน และถือเป็นเมืองที่มีระบบการจราจรที่ซับซ้อนที่สุดของโลก เนื่องจากการจราจรมักจะติดขัดแออัดอย่างสูง และบางทีได้กลายเป็นเมืองที่มีอุบัติเหตุด้านรถยนต์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต มากที่สุดของประเทศ

Monday, October 10, 2011

Xylophone


The xylophone is a musical instrument in the percussion family that consists of wooden bars struck by mallets. Each bar is an idiophone tuned to a pitch of a musical scale, whether pentatonic or heptatonic in the case of many African and Asian instruments, diatonic in many western children's instruments, or chromatic for orchestral use. The term may be used generally, to include all such instruments, such as the marimba and balafon or, more specifically, to refer to an orchestral instrument of somewhat higher pitch range than the chromatic marimba. It is sometimes mistakenly used of similar lithophones and metallophone instruments of the glockenspiel type such as the pixiphone.

History
The instrument has obscure, ancient origins. It is sometimes asserted that it was invented independently in both Africa and Asia. According to Nettl, however, it originated in southeast Asia and came to Africa c. 500 AD when a group of Malayo-Polynesian speaking peoples migrated to Africa. One piece of evidence for this is the similarity between East African xylophone orchestras and Javanese and Balinese gamelan orchestras

Thursday, October 6, 2011

วิธีตรวจสอบยาหมดอายุ

1. ดูจากวันหมดอายุที่พิมพ์ไว้ที่ฉลาก กล่องหรือแผงบรรจุยา ซึ่งมักจะระบุเป็นภาษาไทยว่า วันหมดอายุหรือ ยาสิ้นอายุหรือระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า “Exp. Date” หรือ “Expired Date” หรือ “Exourt Date” หรือ”Use before” เป็นต้น ถ้ายานั้นอยู่นานเกินกว่าวันที่ระบุไว้ก็ไม่ควรนำมาใช้

2. ดูจากวันที่ผลิตมักจะระบุควบคู่กับวันหมดอายุ ยาบางชนิดที่ผลิตมานาน เกินกว่า 5 ปี ไม่ควรใช้ เพราะตัวยาบางอย่างอาจเสื่อมสภาพได้

3. ดูจากสภาพของยา ดังนี้

-3.1 ยาเม็ด ให้ดูว่ามีสีต่างไปจากเดิมหรือไม่ ถ้าเป็นเม็ดยาที่เคลือบน้ำตาล เม็ดยาต้องไม่แตก ไม่เยิ้ม ถ้าเป็นชนิดแคปซูลต้องไม่บวมพอง และไม่มี

ตัวยาซึมออกมา

-3.2 ยาน้ำ ถ้าเป็นชนิดน้ำใส ยาที่ดีต้องไม่มีตะกอน ไม่แยกชั้น สี กลิ่น รสของยาต้องไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นยาน้ำแขวนตะกอนต้องไม่จับกันเป็นก้อนแข็ง หรือเละ เขย่าไม่ออก

-3.3 ยาครีม เนื้อยาต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกตัวเป็นน้ำใส และเนื้อครีมต้องไม่หยาบ

-3.4 ยาหยอดตา ไม่ควรมีลักษณะขุ่นหรือตกตะกอน ยาหยอดตาบางชนิดต้องเก็บที่อุณหภูมิต่ำ เช่น ในตู้เย็น ช่องธรรมดา เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยาก่อนกำหนด โดยทั่วไปเมื่อเปิดใช้แล้วไม่ควรเก็บนานเกิน 1 เดือน

4. หากฉลากยาไม่ปรากฏข้อมูลความชัดเจนใด ๆ ไม่แน่ใจว่าได้มาอย่างไร เมื่อไร ก็ไม่ควรใช้ยานั้น

5. การเก็บรักษายาที่ดี ควรจัดเก็บในภาชนะที่เหมาะสม เช่น กระปุกยา ซองยา ฯลฯ จัดไว้ให้เป็นที่เป็นทางเช่น ในตู้ยา ในกล่อง ในถุง ในลิ้นชัก หรือในตู้ เป็นต้น ซึ่งมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงทั้งแสงความร้อน และความชื้น เพราะทั้งสามสิ่งนี้จะส่งผลต่อความคงตัวของยา จึงควรเก็บยาให้พ้นแสง อย่าให้ร้อนเกินไป และไม่ควรมีความชื้นสูง ซึ่งจะส่งผลทำลายคุณภาพของยาได้ ยาที่เก็บเป็นระยะเวลานานก็ไม่ควรนำมาใช้